ตั๋ว Hospitality เพื่อเข้าชมการแข่งขันของทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลกฤดูร้อนหน้า ขายหมดเกลี้ยงภายในสามวันหลังจากเปิดจำหน่ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงความกระหายของแฟนบอลที่ต้องการติดตามทีมของ โธมัส ทูเคิล ไปเชียร์ถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ตั้งแต่โอกาสแรกที่เปิดให้จอง
ฟีฟ่าได้เริ่มจำหน่ายแพ็คเกจ Hospitality เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว สำหรับรอบแบ่งกลุ่มและรอบน็อกเอาต์แรก ซึ่งรวมถึงแพ็คเกจ “ติดตามทีมของฉัน” สำหรับสี่นัดแรกของแต่ละทีม โดยมีราคาอยู่ระหว่าง 7,400 ถึง 8,500 ปอนด์ต่อคน (ประมาณ 3.4 แสนถึง 3.9 แสนบาท) แต่ภายในเย็นวันพุธ ตั๋วที่รับประกันการเข้าชมเกมของอังกฤษก็ไม่เหลือแล้ว
ฟีฟ่าและผู้ให้บริการ Hospitality อย่างเป็นทางการ “ออน โลเคชั่น” (On Location) ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น แต่แหล่งข่าวระบุว่าอาจมีการเปิดจำหน่ายแพ็คเกจของอังกฤษเพิ่มขึ้นหลังจากมีการจับสลากฟุตบอลโลก 2026 ในเดือนธันวาคมนี้
ความต้องการมหาศาลและความท้าทายในการจำหน่ายตั๋วทั่วไป
ตั๋ว Hospitality สำหรับ 44 ทีมที่เข้าร่วมฟุตบอลโลกที่เหลือ (ไม่รวมเจ้าภาพ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก) ยังคงมีจำหน่ายอยู่ โดยแพ็คเกจของอังกฤษเป็นเพียงเกมเดียวที่ขายหมดไปแล้วในตอนนี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการที่สูงมาก แม้แฟนบอลจะยังไม่ทราบว่า “สิงโตคำราม” จะลงเล่นที่ใดบ้าง นอกเหนือจากแพ็คเกจ “ติดตามทีมของฉัน” แฟนบอลยังสามารถซื้อตั๋ว Hospitality แบบนัดเดียว หรือแบบหลายนัด (สี่ถึงเก้านัด) ที่สนามเดียวได้
ฟีฟ่ายังไม่ได้ประกาศราคาตั๋วทั่วไปสำหรับฟุตบอลโลก โดยจะทยอยเปิดจำหน่ายเป็นช่วงๆ โอกาสแรกสำหรับแฟนบอลในการลงทะเบียนเพื่อขอรับตั๋วคือวันที่ 10 กันยายนนี้ และจะมีตั๋วเปิดให้จองอีกครั้งหลังจากการจับสลาก
ฟีฟ่ามีแผนที่จะใช้โมเดลราคาแบบพลวัตที่เคยใช้ในฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ซึ่งเคยเป็นประเด็นถกเถียง แม้ว่าระบบนี้จะทำให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรงในการแข่งขันช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นแนวทางปฏิบัติมาตรฐานสำหรับงานกีฬาทั่วไปในอเมริกา
ตั๋วสำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศของ เชลซี กับ ฟลูมิเนนเซ่ ที่นิวเจอร์ซีย์ เคยลดราคาเหลือเพียง 13.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 490 บาท) ในวันก่อนการแข่งขัน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่ถึง 72 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 473.90 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,300 บาท)
ด้วยจำนวน 104 เกมในฟุตบอลโลกที่มี 48 ทีมเป็นครั้งแรกในฤดูร้อนหน้า ฟีฟ่าตั้งเป้าที่จะขายตั๋วให้ได้มากกว่า 6 ล้านใบ และคาดการณ์รายรับ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.7 แสนล้านบาท) สำหรับรอบสี่ปีที่สิ้นสุดลงพร้อมกับทัวร์นาเมนต์นี้
เมืองเจ้าภาพกับบทบาทใหม่ในการสร้างรายได้
เมืองเจ้าภาพฟุตบอลโลกได้รับมอบหมายให้ขายข้อตกลงสปอนเซอร์ของตนเองเป็นครั้งแรก โดยฟีฟ่ามุ่งมั่นที่จะจัดงานกีฬาที่ทำกำไรได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในฤดูร้อนหน้า
สนามแข่งขันทั้ง 16 แห่งได้รับมอบหมายให้รวบรวมพอร์ตโฟลิโอพันธมิตรเมืองเจ้าภาพ 10 ราย โดยมีข้อแม้ว่าพันธมิตรเหล่านั้นจะต้องไม่เป็นคู่แข่งกับผู้สนับสนุนปัจจุบันของฟีฟ่า
ฟีฟ่าได้เจรจาข้อตกลงสปอนเซอร์ระดับโลกกับ โคคา-โคลา, วีซ่า, อาดิดาส, แมคโดนัลด์, เวไรซอน และ ยูนิลิเวอร์ ไปแล้ว แต่ก็ยังคงมองหาพันธมิตรระดับภูมิภาคเพิ่มเติม
ความมั่นใจของฟีฟ่ามีพื้นฐานที่ดีตามรายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วโดยบริษัท พิตช์ มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (Pitch Marketing Group) ซึ่งมีสำนักงานในลอนดอน ซึ่งคาดการณ์ว่ารายได้จากการแข่งขันจะสูงเกิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.6 แสนล้านบาท) จากจำนวนผู้ชมทั่วโลกมากกว่า 5 พันล้านคน ซึ่งเกือบสองในสามของประชากรโลก
