แกรห์ม พอตเตอร์ กำลังจะกลับสู่เส้นทางผู้จัดการทีมอย่างรวดเร็ว โดยมีรายงานว่าเขาจะเข้ารับตำแหน่งเฮดโค้ชคนใหม่ของ ทีมชาติสวีเดน ซึ่งจะเป็นการเข้าสู่โลกฟุตบอลระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกของเขา
ภารกิจเร่งด่วนเพื่อฟุตบอลโลก
- การกลับมาอย่างรวดเร็ว: พอตเตอร์ วัย 50 ปี ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปเมื่อไม่ถึงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลังจากทำผลงานได้ย่ำแย่ โดยแพ้ 5 จาก 6 เกมในฤดูกาลนี้ จนทีมตกไปอยู่ในโซนตกชั้น
- ความท้าทาย: พอตเตอร์จะเข้ามากุมบังเหียนทีมชาติสวีเดนในระยะสั้น เพื่อภารกิจเร่งด่วนในการพยายาม ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2026 หลังจากการปลด จอน ดาห์ล โทมัสสัน ออกไป
- เส้นทางที่ยากลำบาก: สวีเดนยังไม่ชนะใครเลยใน 4 นัดแรกของรอบคัดเลือก โดยมีเพียง 1 คะแนน และต้องการชัยชนะเหนือสวิตเซอร์แลนด์และสโลวีเนียเพื่อลุ้นอันดับสอง อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีโอกาสไปเล่นรอบเพลย์ออฟได้จากการที่เคยเป็นแชมป์กลุ่มใน Nations League ฤดูกาล 2024/25 มาแล้ว
- กู้ฟอร์มดารา: ภารกิจของพอตเตอร์คือการปลุกฟอร์มผู้เล่นคนสำคัญ เช่น อเล็กซานเดอร์ อิซัค และ วิคเตอร์ เกียวเคเรส ให้กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง
ความรู้สึกต่อสวีเดน
พอตเตอร์มีความผูกพันกับสวีเดนอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากเขาเคยสร้างชื่อเสียงในฐานะโค้ชที่นั่นมาก่อน โดยพา ออสเตอร์ซุนด์ (Ostersund) เลื่อนชั้นจากดิวิชั่นสี่สู่ลีกสูงสุด และเคยเอาชนะอาร์เซนอลในยูโรปา ลีกมาแล้ว
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อสวีเดน Fotbollskanalen พอตเตอร์ยอมรับว่าเขาสนใจในบทบาทนี้:
“ตอนนี้ผมอยู่ที่สวีเดนจริง ๆ อยู่ที่บ้านของผมในสวีเดน” “ผมกำลังอยู่ในช่วงว่างงาน และเพิ่งออกจากพรีเมียร์ลีก ผมเปิดรับทุกอย่างจริง ๆ ที่ผมรู้สึกว่าผมสามารถช่วยได้ งานหัวหน้าโค้ชทีมชาติสวีเดนเป็นงานที่ยอดเยี่ยมมาก” “ผมมีความรู้สึกที่ดีต่อสวีเดน ผมรักประเทศนี้และรักฟุตบอลสวีเดน ผมมีบุญคุณกับฟุตบอลสวีเดนมากมาย ดังนั้น ใช่ มันจะเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมอย่างเห็นได้ชัด”
เกณฑ์ในการเลือกงานใหม่
พอตเตอร์ยังกล่าวถึงเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกงานถัดไป โดยเน้นย้ำถึงความต้องการที่จะสร้างความแตกต่าง:
“ผมมีประสบการณ์มากมายจนถึงตอนนี้ และรู้สึกขอบคุณสำหรับอาชีพที่ผมมีมา” “แต่ผมอายุแค่ 50 ปี และยังมีสิ่งที่เสนออีกมาก มันไม่เกี่ยวกับการหาตำแหน่งในระดับใดระดับหนึ่ง แต่เกี่ยวกับการค้นหาสิ่งที่ผมรู้สึกว่าสามารถช่วยได้ และสามารถสร้างความแตกต่างได้ และผมก็ต้องการรู้สึกว่าเรา [ทุกคนที่เกี่ยวข้อง] อยู่ในแนวทางเดียวกัน นั่นคือเกณฑ์ของผม”