รองปธ. ฟีฟ่า เร้า อังกฤษ บิดเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2038

บ็อบบี มัวร์ ทีมชาติอังกฤษ

วิคเตอร์ มินตาเกลียนี รองประธาน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ แสดงท่าทีต้องการให้ อังกฤษ ยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก อีกครั้งให้หลังจากที่เคยเป็นเจ้าภาพมาแล้วเมื่อปี 1966

มอนตาเกลียนี รองประธาน ฟีฟ่า พ่วงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลโซนคอนคาแคฟ แสดงความเชื่อมั่นว่าฟุตบอลโลกควรที่จะหวนคืนสู่ อังกฤษ อีกครั้งให้หลังจากที่พวกเขาไม่ได้ยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ เวิลด์คัพ เลยนับตั้งแต่ตกเป็นประเด็นการลงคะแนนเจ้าภาพเมื่อปี 2010 ซึ่งมีสมาชิก ฟีฟ่า บางส่วนถูกเปิดโปงว่ารับสินบนเพื่อลงคะแนนให้ รัสเซีย กับ กาตาร์

ทั้งนี้ สหราชอาณาจักร จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพให้กับทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลกหญิง 2035 และคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นสะพานให้พวกเขายื่นจัด เวิลด์คัพ ประเภทชายได้ในปี 2038 หรือ 2042

“ผมมองไม่เห็นว่ามันจะเป็นไปไม่ได้” มอนตาเกลียนี ให้สัมภาษณ์ผ่าน เดอะไทมส์​ “ไม่ใช่แค่ อังกฤษ เท่านั้นแต่ผมเห็นว่าทั้ง สหราชอาณาจักร มีศักยภาพที่สามารถจัดการได้ มันจะเป็นฟุตบอลโลกที่ยอดเยี่ยม ผมคิดว่าพวกเขาควรพิจารณาอย่างจริงจังเพื่อรับหน้าเสื่อในการยื่นตัวเป็นเจ้าภาพ พวกเราตระหนักดีว่า ฟุตบอล มีความหมายมากมายเพียงใดใน สหราชอาณาจักร และผมคิดว่ามันถึงเวลาสำหรับพวกเขาแล้ว”

ฟีฟ่า มอบสิทธิ์ในการจัด เวิลด์คัพ 200 ให้กับ สเปน, โปรตุเกส และ โมร็อคโก โดยมี 3 แมตช์พิเศษจัดขึ้นในทวีป อเมริกาใต้ ขณะที่ ซาอุดีอาระเบีย 2034 รับสิทธิ์โดยที่ไม่มีคู่แข่งใดๆ เช่นเดียวกับทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลกหญิง 2031 ที่ สหรัฐอเมริกา กับ 2035 ที่ สหราชอาณาจักร

“ผมสนับสนุนสิ่งที่เราได้ลงมือทำเมื่อครั้งอดีต มันเป็นหนทางเดียวของเรา แต่ผมไม่คิดว่ามันควรจะเป็นการตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวของประธาน ฟีฟ่า เขามีบอร์ดและสภาที่สามารถช่วยระดมความคิดเห็นได้ วิธีแบบดั้งเดิมของเรามันเป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุและทำให้เกิดการติดสินบน มันไร้สาระสิ้นดี เราต้องหนีห่างออกจากมัน”

“ให้ ฟุตบอลโลก เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน ให้มีการบริหารกลยุทธ์การจัดอีเวนต์ทำให้เราสามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมารับหน้าที่ได้ ความเป็นจริงคือ ฟุตบอลโลก ได้สร้างรายได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์ให้กับ ฟีฟ่า ซึ่งได้ส่งมอบทุนสัดส่วน 80 เปอร์เซ็นต์กลับไปให้ชาติสมาชิกเพื่อการพัฒนาฟุตบอล และหาก ฟีฟ่า ไม่สามารถสร้างรายได้ขนาดนั้นได้จะทำให้ชาติสมาชิก 211 ชาติไม่มีเงินทุนสำหรับการพัฒนาฟุตบอล”

Facebook
Twitter
LinkedIn
Telegram