เหลือเวลาอีกเพียงราว 1 ปีก่อนศึก ฟุตบอลโลก 2026 จะเริ่มต้นฟาดแข้ง แม้ ฟีฟ่า จะไฟเขียวในการขยายทีมร่วมโม่แข้งในรอบสุดท้ายเป็น 48 ทีมแต่นั่นก็อาจไม่เพียงพอให้กับเหล่าชาติบิ๊กทีมต่อไปนี้เข้าร่วมการแข่งขัน
ต่อไปนี้คือ 7 ทีมชาติบิ๊กเนมที่ส่อแววชวดตั๋ว ฟุตบอลโลก 2026
ทีมชาติไนจีเรีย
ทีมชาติไนจีเรีย อุดมไปด้วยขุนพลระดับพระกาฬมาตรฐานยุโรปอย่าง วิคเตอร์ โอซิมเฮน (กาลาตาซาราย), อเดโมลา ลุคแมน (อตาลันตา), วิคเตอร์ โบนิเฟซ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน), ไทโว อโวนิยี (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์) ไปจนถึง ซามูเลอ ชุควูเอเซ (เอซี มิลาน) หากแต่พวกเขารั้งอันดับที่ 4 บนตารางคะแนน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา มีแต้มตามหลังจ่าฝูง 6 คะแนนในขณะที่เหลืออีก 4 เกมให้ลงเล่น
ทีมชาติ แอฟริกาใต้ รั้งตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่มเดียวกันที่ 13 คะแนนแต่ช่องว่าง 6 แต้มกับ ไนจีเรีย ทำให้พลพรรค อินทรีมรกต อาจทำได้เพียงการลุ้นโควต้าอันดับที่สองที่ดีที่สุดเท่านั้น
ทีมชาติแคเมอรูน
ทัพ หมอผี ที่มีแข้งชูโรงในทุกตำแหน่งไล่เรียงตั้งแต่ อ็องเดร โอนาน่า (แมนเชสเตอรื ยูไนเต็ด), ไบรอัน เอ็มบูโม (เบรนท์ฟอร์ด), คาร์ลอส บาเลบา (ไบรท์ตัน) และ ฟร็องค์ อ็องกิสซา (นาโปลี) แต่พวกเขายังขับเคี่ยวกับ เคปเวิร์ด (13 แต้ม) อย่างสูสีบนตารางคะแนนแถมยังมีแต้มตามหลังพวกเขา 1 คะแนน
คาดการณ์ว่าเกมบุกไปเยือน เคปเวิร์ด ในโปรแกรมเดือนกันยายนนี้จะเป็นนัดตัดสินว่าทีมจะตีตั๋ว ฟุตบอลโลก 2026 อัตโนมัติในฐานะแชมป์กลุ่มหรือไม่
ทีมชาติเซเนกัล
สิงโตแห่งเตรังกา ไม่พลาดตั๋วฟุตบอลโลก 2 ครั้งหลังสุดโดยเฉพาะในปี 2022 ที่พวกเขาคว่ำเจ้าภาพ กาตาร์ ในรอบแบ่งกลุ่ม 3-1 ก่อนจอดป้ายรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อปราชัย อังกฤษ 3-0
ด้วยแข้งฝีเท้าดีอย่าง ปาป มาตาร์ ซาร์ (สเปอร์ส), อัสซาเน ดิเยา (โคโม), อิสไมลา ซาร์ (คริสตัล พาเลซ), นิโกลาส์ แจ็คสัน (เชลซี) ไปจนถึง ซาดิโอ มาเน (อัล-นาสเซอร์) และ คาลิดู คูลิบาลี (อัล-ฮิลาล) ในเวลานี้ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมเต็งในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา หากแต่พวกเขาตามหลัง ดีอาร์ คองโก ในตำแหน่งจ่าฝูง 1 คะแนนและมีแต้มเทียบเท่า ซูดาน ในอันดับที่ 3
ทีมชาติกาตาร์
ชาติเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2022 ตกอยู่ในที่นั่งลำบากในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แม้จะพกดีกรีแชมป์เอเชียน คัพ 2 สมัยล่าสุดเมื่อรั้งอันดับที่ 4 บนตารางคะแนนที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 2 นัด โดยแชมป์และรองแชมป์กลุ่มเท่านั้นที่คว้าสิทธิ์ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ขณะที่อันดับที่ 3-4 ต้องฝ่าด่านในรอบที่ 4 เพื่อตั๋วรอบสุดท้าย
แต่ที่น่ากังวลสำหรับพวกเขาคือ 2 เกมที่เหลือเป็นการเฝ้าบ้านต้อนรับ อิหร่าน ที่การันตีตั๋ว ฟุตบอลโลก 2026 เป็นที่แน่นอนแล้วและบุกไปเยือน อุซเบกิสถาน ที่รั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนนเวลานี้
ทีมชาติชิลี
จากทีมดีกรีแชมป์ โคปา อเมริกา 2015 และ 2016 ด้วยอดีตแข้งชูโรงอย่าง อาร์ตูโร วิดัล และ อเล็กซิส ซานเชซ ทว่าทศวรรษให้หลังจากนั้นพวกเขาไม่สามารถผลิตนักเตะชั้นนำที่สามารถโลดแล่นบนเวทีฟุตบอลยุโรปได้เลยขึ้นมาทดแทนได้เลย
ทีมชาติชิลี ส่อชวดตั๋ว ฟุตบอลโลก 2026 แทบจะแบเบอร์แม้ทางทฤษฎีจะยังมีโอกาส ด้วยผลงานรั้งบ๊วยในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ จากชัยชนะ 2 นัด เสมอ 4 และแพ้ไปถึง 8 นัดหลังผ่าน 14 เกม มีแต้มตามหลังโซนท็อป 6 ที่ตีตั๋วอัตโนมัติ 10 คะแนน และตามหลังพื้นที่เพลย์ออฟในอันดับที่ 7 อยู่ 5 แต้ม
ทีมชาติโครเอเชีย
ด้วยการที่ เวิลด์คัพ 2026 รอบคัดเลือกโซนยุโรป ยังไม่เริ่มต้นฟาดแข้งอย่างเต็มตัวเมื่อโปรแกรมคาบเกี่ยวกับศึก ยูฟา เนชันส์ลีก รอบไฟนอล แต่เพื่อนร่วมกลุ่มแอลของ โครเอเชีย ได้แข่งขันกันไปเป็นที่เรียบร้อยยกเว้นทัพ ตราหมากรุก
สาธารณรัฐเช็ก ควงคู่ มอนเตเนโกร รั้งอันดับจ่าฝูงและรองจ่าฝูงตามลำดับจากการมี 6 คะแนนเต็มหลังผ่านการแข่งขัน 2 นัด ขณะที่ โครแอต ยังไม่มีแต้มเมื่อยังไม่ลงแข่งขัน
ทว่าด้วยเหล่าคีย์แมนของทีมที่อยู่ในช่วงท้ายของเส้นทางการค้าแข้งอย่าง อิวาน เปริซิช (36 ปี), ลูกา โมดริช (39 ปี) ไปจนถึง มาเตโอ โควาชิช (31 ปี) ทำให้ทีมของพวกเขาน่าเป็นกังวลไม่น้อย
ทีมชาติออสเตรีย
ออสเตรีย ไม่สามารถตีตั๋วผ่านศึก ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ตั้งแต่ปี 1998 ก่อนที่จะได้รับการจับตาจากผลงานในศึก ยูโร 2024 ที่ผ่านมาภายใต้การคุมทีมของ ราล์ฟ รังนิค
ด้วยทรัพยากรนักเตะในทีมชุดใหญ่ที่ค้าแข้งอยู่บนเวที บุนเดสลีกา ค่อนทีมกับแข้งชูโรงอย่าง คอนราด ไลเมอร์ (บาเยิร์น มิวนิค), มาร์โก อาร์เนาโตวิช (อินเตอร์ มิลาน), ดาวิด อลาบา (เรอัล มาดริด) ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่ได้รับการคาดหมายว่าจะคว้าตั๋วสู่ ฟุตบอลโลก 2026 สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ออสเตรีย ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เดียวกับ โครเอเชีย เมื่อเป็นเพียงทีมเดียวของกลุ่มที่ยังไม่ได้ลงฟาดแข้งเลยสักเกมและมีแต้มตามหลังจ่าฝูงไปแล้ว 6 คะแนน
