วันที่ 28 ตุลาคม – FIFA ได้เปิดตัวการขายตั๋วฟุตบอลโลกในรอบที่สอง โดยมีตั๋วอีกหนึ่งล้านใบที่พร้อมจำหน่าย
การขายรอบใหม่นี้ ซึ่งจะเปิดไปจนถึงวันศุกร์ (31 ตุลาคม) มีช่วงเวลาพิเศษเฉพาะสำหรับผู้ที่พำนักอาศัยในสามประเทศเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา
เมื่อช่วงเวลาพิเศษสำหรับคนในประเทศเจ้าภาพสิ้นสุดลง แฟนบอลจากทั่วโลกจะมีสิทธิ์ได้รับโควตาการซื้อตั๋วตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนเป็นต้นไป
“เราเห็นความสนใจอย่างล้นหลามจากทั่วโลกสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้แล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภายในประเทศเจ้าภาพ เนื่องจากแคนาดา เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกาเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน FIFA World Cup ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ไฮโม เชียร์กิ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของทัวร์นาเมนต์กล่าว
“การขายรอบที่สองนี้ ซึ่งมีช่วงเวลาพิเศษเฉพาะสำหรับประเทศเจ้าภาพ จะช่วยให้เราสามารถกล่าวคำว่า ‘ขอบคุณ’ แก่แฟนบอลท้องถิ่นเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็รับประกันโอกาสสำหรับแฟนบอลทั่วโลกด้วย”
การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราคาสูงและการตั้งราคาแบบไดนามิก
การขายตั๋วรอบแรก ซึ่งเป็นการจับสลากล่วงหน้าสำหรับผู้ถือบัตร Visa ที่มีคุณสมบัติ ได้รับความสนใจจากทั่วโลกด้วยผู้สมัครมากกว่า 4.5 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่พำนักอาศัยในประเทศเจ้าภาพได้ซื้อตั๋วมากกว่าชาติอื่นใด
FIFA ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักสำหรับการตั้งราคาสูงลิบลิ่วและการใช้กลยุทธ์การตั้งราคาแบบไดนามิก (Dynamic Ticketing) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ราคาจะเปลี่ยนไปตามอุปสงค์ รูปแบบดังกล่าวเคยถูกทดสอบในการแข่งขัน Club World Cup มาก่อน และหมายความว่าราคาตั๋วสามารถสูงขึ้นได้เมื่อการขายดำเนินไป
ราคาตั๋วฟุตบอลโลกมีตั้งแต่ $60 (ประมาณ 2,200 บาท) ในรอบแบ่งกลุ่ม ไปจนถึง $6,730 (ประมาณ 246,000 บาท) สำหรับรอบชิงชนะเลิศ แต่การขายรอบแรกเผยให้เห็นว่าตั๋ว Category 4 ที่มีราคา $60 ในรอบแบ่งกลุ่มนั้นมีจำนวนจำกัดมาก ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ถือสิทธิ์ซื้อตั๋ว (RTB – right to buy tickets) ส่วนใหญ่ถูกบังคับให้ซื้อตั๋ว Category 1 และ Category 2
ความคาดหวังรายได้
FIFA คาดว่าจะขายตั๋วได้มากกว่า 6.5 ล้านใบ สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ และสร้างรายได้ 3 พันล้านดอลลาร์ จากการขายตั๋ว รวมถึงจากส่วนของบริการต้อนรับ (hospitality) ฟุตบอลโลก 2026 จะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยจำนวนทีมที่เข้ารอบสุดท้ายถึง 48 ทีม
