เนเธอร์แลนด์บอลโลก เป็นทีมฟุตบอลที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความสามารถ แม้จะไม่ได้ถูกมองว่าเป็นทีมเต็งในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก มาโดยตลอด แต่ทีม “อัศวินสีส้ม” มักสร้างเซอร์ไพรส์ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ด้วยสไตล์การเล่นที่ตื่นเต้นและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม นักเตะจากลีกชั้นนำทั่วโลกมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนทีมน้ำเงิน-ส้ม สู่ความสำเร็จ แม้แต่การผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศหรือรอบชิงฯ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ โดย ฟุตบอลทีมชาติฮอลแลนด์ ก็เป็นทีมพระรองที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ในการแข่งขันที่ใกล้จะถึงนี้
ประวัติศาสตร์ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์หรือบอลทีมชาติฮอลแลนด์ที่น่าจดจำ
ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์บอล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อัศวินสีส้ม” มีประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำในการแข่งขันฟุตบอลระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงยุคทองของทศวรรษ 1970 เมื่อทีมนำโดย “โยฮัน ครัฟฟ์” และ “อาริห์ ฮาค” นำทีมสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1974 และรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 1978 การเล่นฟุตบอลที่เก่งกาจและมีสไตล์ทำให้พวกเขาได้รับการยกย่องอย่างมาก นอกจากนี้ ความสำเร็จของทีมในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 1988 ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์แรกและครั้งเดียวของทีมในรายการนี้ ยังเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ บอลทีมชาติฮอลแลนด์ ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
ฟุตบอลทีมชาติฮอลแลนด์กับฉายาทีมพระรองแห่งยุโรป มีที่มาอย่างไร?
ฟุตบอลทีมชาติฮอลแลนด์ มักถูกมองว่าเป็นทีมพระรองในวงการฟุตบอลยุโรป แม้จะมีประวัติศาสตร์ที่รุ่งเรืองและนักเตะที่มีความสามารถมากมาย แต่ทีมนี้กลับไม่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งทำให้ชื่อเสียงในฐานะทีมที่เข้าใกล้แต่ไม่เคยสัมผัสกับความสำเร็จในระดับสูงสุด กลายเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทีมนี้สามารถสร้างผลงานที่น่าประทับใจในเวทีโลก แม้จะถูกมองเป็นทีมอันดับรองอยู่เสมอ แต่การต่อสู้เพื่อชัยชนะและจิตวิญญาณของทีมนี้ไม่เคยลดน้อยลง จนนำไปสู่การเป็นที่จดจำในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
การคว้าตำแหน่งรองแชมป์ในปี 1974, 1978 และ 2010
เนเธอร์แลนด์บอลโลก สามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์มาได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้
- 1974 ฮอลแลนด์เข้ารอบชิงชนะเลิศและพบกับเยอรมันตะวันตก โดยใช้สไตล์ฟุตบอลที่ชื่อว่า “Total Football” นำทีมโดยโยฮัน ครัฟฟ์ จบเกมด้วยความพ่ายแพ้ 2-1
- 1978 ในฟุตบอลโลกที่อาร์เจนตินา ฮอลแลนด์กลับมาถึงรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง แต่พ่ายแพ้ต่อเจ้าภาพอย่างอาร์เจนตินา 3-1 หลังจากต่อเวลาพิเศษ
- 2010 ฮอลแลนด์เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศครั้งที่สาม พบกับทีมชาติสเปน การแข่งขันดำเนินไปอย่างตึงเครียด ก่อนที่ฮอลแลนด์จะพ่ายแพ้ 1-0 จากประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ
นักเตะระดับตำนานของทีมชาติเนเธอร์แลนด์บอลโลกที่ผ่านมา
เนเธอร์แลนด์บอลโลก มีนักเตะระดับตำนาน ที่สร้างชื่อเสียงในวงการฟุตบอลมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผลงานและการเล่นที่น่าทึ่งของพวกเขาทำให้ทีมเป็นที่รู้จักและเป็นที่รักของแฟนบอลทั่วโลก
โยฮัน ครัฟฟ์ ผู้ที่ได้ปฏิวัติวงการฟุตบอลเนเธอร์แลนด์และฟุตบอลโลก
โยฮัน ครัฟฟ์ ถือเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงแต่เป็นนักเตะที่ย้ายออกจาก เนเธอร์แลนด์บอล เพื่อไปเล่นในลีกชั้นนำอย่าง ลา ลีกา แต่เขายังเป็นผู้ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในเกมฟุตบอลด้วยสไตล์ “Total Football” ซึ่งทำให้ผู้เล่นทุกคนสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง มีสัญชาตญาณการเล่นที่มีความสร้างสรรค์และตื่นเต้น ครัฟฟ์ไม่เพียงแต่มีอิทธิพลต่อนักฟุตบอลในยุคนั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นหลังในการเลือกเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพด้วย
นักเตะยอดเยี่ยมในยุคปัจจุบันที่พาทีมกลับสู่เวทีโลกมีใครบ้าง?
เรามาดูกันสิว่า มีนักเตะคนไหนบ้าง ที่สามารถพาทีมกลับเข้าสู่เวทีโลกได้ในยุคปัจจุบัน ซึ่งใครที่เป็นแฟน เนเธอร์แลนด์บอลโลก เชื่อว่าจะต้องรู้จักและคุ้นเคยกับชื่อเสียงของพวกเขาเป็นอย่างดี
- Virgil van Dijk กองหลังจากสโมสรลิเวอร์พูล ที่มีความแข็งแกร่งและมีความเป็นผู้นำสูง ช่วยสร้างความแน่นหนาให้กับแนวรับของทีม
- Memphis Depay กองหน้าจากสโมสรคอรินเทียนส์ ที่มีทักษะการเล่นที่ยอดเยี่ยมและสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม สร้างความหวังในการทำประตู
- Frenkie de Jong กองกลางจากสโมสรบาร์เซโลน่า ที่มีความสามารถในการควบคุมเกม มีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมในการสร้างสรรค์เกมรุก
สรุปได้ว่า เนเธอร์แลนด์บอลโลก ทีมพระรองยุโรปกับตำนานที่คนไม่เคยลืม
บอลทีมชาติฮอลแลนด์ ยืนยันความเป็นทีมพระรองแห่งยุโรป ด้วยผลงานที่เด่นชัดหลังจากคว้ารองแชมป์ในหลายปีที่ผ่านมา แม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ แต่การมีนักเตะระดับตำนานอย่างโยฮัน ครัฟฟ์ และนักเตะยอดเยี่ยมในปัจจุบันเช่น เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ทำให้ทีมนี้ยังคงเป็นที่น่าจับตามองในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ ผลงานที่น่าประทับใจและการต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ เนเธอร์แลนด์บอลโลก ทีมนี้ ทำให้พวกเขายังคงอยู่ในใจของแฟนฟุตบอลและเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกที่ไม่เคยลืมเลือน
